เชื่อมวัย เชื่อมไลฟ์สไตล์ ให้เข้าใจกันมากขึ้นด้วยนวัตกรรมไทย
แต่ละสังคมประกอบด้วยผู้คนที่หลากหลาย สังคมเมืองใหญ่และสังคมชนบทมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน แม้แต่ในครอบครัวเดียวกันก็มีระยะห่างระหว่างวัยทำให้วิธีคิดมุมมองไม่เหมือนกัน ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่กับคนรุ่นก่อนที่แตกต่างกันแทบทุกเรื่อง อาชีพที่แตกต่างทำให้ผู้คนต่างคนต่างอยู่ เหล่านี้ล้วนทำให้เกิดความไม่เข้าใจกัน และยิ่งมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองชีวิตคนรุ่นใหม่มากเท่าใด ก็ดูจะยิ่งทำให้ช่องว่างระหว่างวัยกว้างขึ้น ผู้สูงวัยถูกทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวมากขึ้น ซึ่งปัญหานี้ไม่เป็นเฉพาะเมืองไทยเท่านั้น แต่เป็นปัญหาในสังคมทั่วโลก
ลดช่องว่าง สร้างการเชื่อมต่อของผู้คนด้วยนวัตกรรม
จากปัญหาดังกล่าว ทำให้เกิดการคิดค้นนวัตกรรมที่สามารถตอบโจทย์ Pain point ของผู้คนในแต่ละกลุ่ม เกิดการเชื่อมโยงกันระหว่างผู้ที่สนใจในเรื่องเดียวกัน ทั้งในรูปแบบแอปพลิเคชั่นและแพลตฟอร์มใหม่ๆ เพื่อทำให้ครอบครัวมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น ใกล้ชิดกันมากขึ้นแม้จะอยู่ห่างไกลกัน เชื่อมผู้คนที่สนใจด้านอาหารการกิน เชื่อมคนชอบเที่ยวสไตล์เดียวกัน หรือผู้ที่ชื่นชอบในกิจกรรมสไตล์เดียวกันได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเรื่องราวดีๆ เกิดการรวมตัวเป็นสังคมใหม่ หรือแม้แต่การเชื่อมโยงอาชีพและบริการที่ทำให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
นวัตกรรมไทยที่ทำให้ชีวิตเชื่อมต่อถึงกันมากขึ้น
ประเทศไทยวันนี้ เรามีที่คิดค้นนวัตกรรมมากมายเพื่อเชื่อมต่อให้ผู้คนพูดคุยเรื่อง เดียวกันได้ เชื่อมทุกไลฟ์สไตล์ เกิดเป็นแพลตฟอร์มที่สื่อสารถึงกันได้ทุกที่ทุกเวลา อาทิ แอปพลิเคชั่นที่ทำให้ผู้สูงวัยมาทำกิจกรรมร่วมกัน แอปพลิเคชั่นที่เชื่อมโยงระหว่างคนกับแหล่งงาน ที่ใกล้บ้าน เครือข่ายแมสเซ็นเจอร์ที่พร้อมให้บริการส่งของหรือเอกสาร รวมถึงแพลตฟอร์มให้บริการแม่บ้านมืออาชีพ ฯลฯ
นวัตกรรมเพื่อชีวิตที่เชื่อมต่อถึงกันได้ (Connected Living) คือหนึ่งในนวัตกรรมไทย เพื่อการใช้ชีวิตที่ดีขึ้น ที่ช่วยให้คนต่างวัย ต่างความคิด ต่างไลฟ์สไตล์ ได้เกิดความเข้าใจกันมากขึ้น เชื่อมทุกวันให้เข้าถึงกัน อันเป็นพื้นฐานของการสร้างสังคมที่ดีและมีความสุขอย่างแท้จริง